THE COLD WAR สงครามเย็น

THE COLD WAR สงครามเย็น
คำนำผู้แปล
สงครามเย็นเป็นเหตุการณ์สำคัญครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่มิได้เป็นเพียงเรื่องราวความขัดแยังของอุดมการณ์ทางการเมืองระหว่างมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกากับสหภาพโซเวียตเท่านั้น แต่ยังเป็นความขัดแย้งที่ส่งผลกระทบและโยงใยไปถึงการก่อรูปหรือการปรับโฉมทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม “ภายใน” ของประเทศเล็กประเทศน้อยในแทบทุกพื้นที่ของโลกที่เข้าไปสู่วงโดจรของสงครามดังกล่าว แม้แต่ประเทศไทยเองก็ถือเป็นส่วนหนึ่งในสังเวียนความขัดแย้งที่ “เลือกฝักฝ่าย” อย่างชัดเจน จนมีส่วนก่อร่างสร้างประเทศไทยอย่างที่เราคุ้นชินในปัจจุบัน
การเรียบเรียง “มหากาพย์” แห่งความขัดแย้งครั้งสำคัญของโลกที่กินเวลาร่วมครึ่งศตวรรษอย่างสงครามเย็นให้กระชับและเข้าใจง่ายนั้น ถือเป็นงานระดับหินที่น้อยคนนักจะกระทำได้ มิหนำซ้ำ เรื่องราวบางส่วนบางตอนของสงครามเย็น
ยังสามารถขยายให้กลายเป็นหนังสือเล่มหนาได้อีกหลายเล่ม กระนั้นก็ตาม ศาสตราจารย์โรเบิร์ต แมคมาน นักวิชาการผู้คร่ำหวอดประวัติศาสตร์การต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาและประวัติศาสตร์สงครามเย็น ผู้เขียนหนังสือ สงครามเย็น : ความรู้ฉบับพกพาเล่มนี้ก็ปฏิบัติภารกิจข้างตันได้ลุล่วงอย่างมีประสิทธิภาพ
หนังสือเล่มนี้ถือเป็นหนังสือที่บรรจุความรู้ความเข้าใจเรื่องสงครามเย็นที่เนื้อหากระชับทว่าเปี่ยมความเข้มข้นอีกเล่มหนึ่ง บทเริ่มต้นของหนังสือเล่มนี้ โรเบิร์ต แมคมาน พาเรากลับไปพินิจถึงต้นตอของสงครามเย็นอันมีจุดเริ่มต้นตั้งแต่
ช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สอง โลกที่เคยมียุโรปเป็นผู้กำกับและกำหนดทิศทางได้เดินทางมาถึงจุดสิ้นสุด ปฐมบทแห่งการขับเคี่ยวระหว่าง “มหาอำนาจใหม่” อย่างสหรัฐอเมริกากับสหภาพโซเวียตได้เริ่มก่อตัวขึ้นในช่วงเวลาของความพยายามสถาปนาสันติภาพท่ามกลางเศษซากแห่งสงคราม แม้การขับเคี่ยวที่ว่านั้นจะเริ่มต้นที่ยุโรป แต่มันก็ขยายตัวจนครอบคลุมแทบทุกตารางนิ้วของโลกในเวลาต่อมา แมคมานยังนำพาเราไปสัมผัสกับสงครามเย็นผ่านการแบ่งช่วงเวลาตามจังหวะความสัมพันธ์ของมหาอำนาจทั้งสองประเทศ ซึ่งในบางคราวก็เผชิญความตึงเครียดที่มีระดับแตกต่างกันไป ในบางจังหวะก็เริ่มผ่อนคลายท่าทีระหว่างกันลงบ้างผ่านการประสานไมตรีและการรื้อฟื้นความสัมพันธ์เท่าที่โอกาสจะอำนวยแม้จะมิได้เต็มใจนักก็ตาม ในบางทีบรรยากาศที่เพิ่งชื่นมื่นได้ไม่นานนักก็กลับเขม็งเกลียวจนลุกลามบานปลายและสุดท้ายที่ปิดฉากในตอนต้นทศวรรษ 1990 อย่างไรก็ดี หนังสือเล่มนี้มิได้นำเสนอเรื่องสงครามเย็นแต่เพียงมิติทางการทหารเท่านั้น ทว่ายังมีมิติอื่นที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นมิติทางการเมืองทั้งระดับระหว่างประเทศและระดับภายในประเทศหรือมิติทางสังคมและวัฒนธรรมผ่านตัวละครสำคัญที่แตกต่างหลากหลายกันไป ซึ่งแมคมานนำพวกเขาเหล่านั้นกลับมาโลดแล่นบนหน้ากระดาษอีกครั้ง ในปัจจุบันนี้สหภาพโซเวียตได้หายไปจากแผนที่โลกพร้อมการสิ้นสุดสงครามเย็น ระบบระหว่างประเทศก็เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมหาศาล สหรัฐอเมริกายังคง “ยืนหนึ่ง” ในฐานะมหาอำนาจระดับโลก ทว่าความพยายามของรัสเซียภายใต้การนำของวลาดิมีร์ ปูดิน ที่ต้องการทวงบัลลังก์แห่งมหาอำนาจกลับมานำไปสู่คำถามสำคัญที่ว่า “สงครามเย็นจะเกิดขึ้นได้อีกหรือไม่” การบุกยูเครนของรัสเซียในปี 2022 ท่ามกลางเสียงประณามของประชาคมระหว่างประเทศ ก็ได้นำไปสู่คำถามอีกชุดหนึ่งว่า “สงครามโลกครั้งใหม่จะเกิดขึ้นได้หรือไม่” อย่างไรก็ดี ผู้แปลอยากชี้ชวนให้ผู้อ่านได้ลองถอดบทเรียนจากอดีตและขบคิดคำถามข้างต้นหลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้จบท้ายนี้ ขอขอบพระคุณกองบรรณาธิการสำนักพิมพ์ bookscape ที่มอบความไว้วางใจให้ผู้แปลทำหน้าที่ถ่ายทอดหนังสือ สงครามเย็น : ความรู้ฉบับพกพา ออกมาในภาคภาษาไทยอีกทั้งยังอุตสาหะขัดเกลาสำนวนการแปลให้สละสลวย อ่านง่ายและงดงามเป็นอย่างยิ่ง คุณความดีหรือประโยชน์อันใดในการแปลครั้งนี้ ขออุทิศแด่ศาสตราจารย์ ดร. จุลชีพ ชินวรรโณ ครูผู้ล่วงลับซึ่งเป็นผู้จุดประกายความสนใจใครรู้และความหลงไหลเรื่องสงครามเย็นให้แก่ผู้แปลตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ณ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หากมีความผิดพลาดประการใดในหนังสือเล่มนี้ ผู้แปลขอรับไว้แต่เพียงผู้เดียว
ศิวหล ชมกูพันธุ์
กลางเดือนมีนาคม 2022

ห้องสมุดและพิพิธภัณฑ์