พระราชปฏิพัทธ์ในสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง
เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖ เป็นปีครบ ๑๕o ปี แห่งวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ พระผู้เป็นสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราชของปวงชนชาวไทย ซึ่งในการประชุมสมัยสามัญครั้งที่ ๑๓ ขององค์การยูเนสโก(UNESCO) เมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๔ นั้น ที่ประชุมได้พิจารณาประกาศยกย่องให้ พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ดีเด่นของโลก ทางสาขาการศึกษา วัฒนธรรม สังคมศาสตร์ มานุษยวิทยา การพัฒนาสังคมและการสื่อสาร ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอันเป็นคุณอเนกอนันต์ ทำให้ประเทศสยาม (ไทย) เจริญรุ่งเรืองทัดเทียมอารยประเทศ พระองค์ทรงเป็นสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราช ผู้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณยิ่งใหญ่ต่อไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน พระองค์ทรงบำเพ็ญพระราชกิจสำคัญ ทำให้ประเทศพัฒนาสู่ความเจริญรุ่งเรืองและก้าวหน้า ทรงนำอารยธรรม และสิ่งที่ดีงมของนานาประเทศมาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาบ้านมืองและทำนุบำรุงให้พสกนิกรมีความผาสุกร่มเย็นโดยถ้วนหน้า พระปรีชญาณของพระองค์อันเปี่ยมด้วยพระมหากรุณาธิคุณในสมัยนั้น พระองค์ได้ชักจูงปวงอาณาประชาราษฎร์ ด้วยรัฏฐาภิปาลโนบายอันสุขุม ให้ดำเนินไปในหนทางที่ชอบธรรมเพื่อความเจริญรุ่งเรื่องของประเทศชาติ พระองค์ทรงป็นสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราชที่มีพระเมตตา ทรงบริจาคมหาทานอันประเสริฐยิ่งโดยเพาะการที่พระองค์ทรพระราชทานอภัยทานแก่ประชาชนได้เป็นไทยอย่างสมนามของชาติ พร้อมกับทรงสละพระราชอำนาจที่มีอยู่ในพระองค์สมเด็จพระราชา พระราชทานแก่พสกนิกรส่วนหนึ่งอย่างเต็มพระราชหฤทัย พราะพระองค์ทรงเห็นแก่ประเทศชาติบ้านเมืองยิ่งกว่าประโยชน์ส่วนพระองค์ นับเป็นอาภรณ์แห่งสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราชที่หาได้ยากยิ่งและมีความงดงามอลังการยิ่งกว่าอื่นใด พระองค์ทรงพระอุตสาหะในพระราชกิจและพระราชดำริทุกสรรพกิจใหญ่น้อย เพื่อให้บังเกิดความสุข และทรงปรารถนให้ดำเนินการไปในหนทางที่ชอบธรรม ละหนทางที่ผิดเปรียบประหนึ่งพระบิดาปราณีบำรุงเลี้ยงบุตร พระองค์ทรงทนความยากลำบากพระวรกายเพื่อประโยชน์ของแผ่นดินและประชาชน ทรงวางพระองค์ไว้ให้เป็นตัวอย่าง พระองค์ทรงกระทำด้วยพระขันติ และพระวิริยภาพสมอปลาย จนปรากฏพระเกียรติยศแก่ปวงอาณาประชาราษฎร์ เพื่อทุกคนจักได้พยายามโดยเสด็จตามทางนั้นบ้าง พระองค์ทรงบำเพ็ญพระราชกิจของพระมหากษัตริย์โดยครบถ้วน และบริสุทธิ์ทุกประการ สมกับที่ปวงประชาราษฎร์ได้พร้อมใจกันน้อมถวายความจงรักภักดี และเคารพสักการะเสมอด้วยพระพุทธจ้า ดังพระราชสมัญญานามที่ถวายเพื่อเทิดทูนพระองค์ ว่า “สเด็จพระพุทธเจ้าหลวง” ด้วยความจงรักภักดีของพสกนิกรที่ได้พร้อมใจกันสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอเนกอนันต์ของพระองค์ จึงได้ร่วมกันสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์แห่งความจงรักภักดีของปวงชนชาวไทย คือ พระบรมรูปทรงม้า เป็นพระบรมราชานุสาวรีย์สำคัญที่สถิตไว้เป็นพระเกียรติอันสง่างามและรำลึกถึงพระองค์ที่ทรงเป็น “สมเด็จพระปิยมหาราช” และเป็น “สมเด็จพระมหากษัตริยาธิราช” ของสยามประเทศ พระองค์ผู้เป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทยตลอดมาทุกยุคทุกสมัยและมั่นคงตลอดกาล ด้วยเหตุที่พระองค์ทรงมีพระมเหสีหลายพระองค์และมีพระสนม คือ เจ้าจอมมารดาและเจ้าจอมหลายคน คอยช่วยสนองพระราชกิจฝ่ายในตามขนบธรรมเนียมราชสำนัก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว พระองค์จึงทรงมีพระราชโอรสและพระราชธิดาที่ประสูติแต่พระมเหสีและพระสนมหลายพระองค์ ซึ่งต่อมาได้มีบทบาทสำคัญในการราชกิจและเป็นกำลังสำคัญในแผ่นดินตามระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ นอกจากพระราชอำนาจแล้ว ยังมีพระบรมวงศานุวงศ์คอยถวายงานสนองพระราชกิจอย่างใกล้ชิด เช่นเดียวกับขุนนางใหญ่น้อยที่ไว้วางพระราชหฤทัยให้สนองงานการบริหารแผ่นดินตามพระบรมราโชบายของพระองค์ จนมีผลให้อาณาจักรสยามได้พัฒนาบ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองและทำนุบำรุงชาติ ศาสนา และป้องกันอาณาจักร อันเป็นคุณอเนกอนันต์ส่งผลให้ไพร่ฟ้าประชาชนมีความสุขสำราญถ้วนหน้า พระเจ้าแผ่นดินแห่งกรุงสยามพระองค์นี้ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถในทุกด้าน มีพระทัยใส่ต่อประโยชน์โดยรวม เป็นสมด็พระมหาธรรมราชาของอาณาจักรและไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน ทรงเป็นพระราชาผู้เป็นที่รักของไพร่ฟ้าประชาชนชาวสยามและเป็นที่รู้จักทั่วไปในนานาประเทศ พระราชกรณียกิจต่าง ๆ ของพระองค์นั้น ล้วนสร้างคุณประโยชน์ต่ออาณาประชาราษฎร์ที่ได้เข้ามาอยู่ในใต้มพระบรมโพธิสมภารให้มีความร่มเย็นเป็นสุข รับเป็นพระราชธุระขจัดปัดเป่าความทุกข์ร้อนให้ประชาชน ด้วยการพระราชจริยาวัตรแห่งสมเด็จพระมหาธรรมราชาที่ครองแผ่นดิน ทรงตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรมและสุขุมคัมภีรภาพในการแก้ปัญหาของชาติบ้านเมือง จนทำให้อาณาจักรสยามแห่งนี้ สามารถที่จะดำรงความเป็นเอกราชอยู่ประเทศเดียวท่ามกลางการสูญเสียดินแดนของประเทศรอบบ้าน การครองแผ่นดินของพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง นอกจากการปฏิรูปการปกครองการศึกษา และพัฒนาบ้านเมืองในทุกด้านแล้ว ได้มีเรื่องที่นสนใจถึงพระราชกิจอันเนื่องมาจากความรักที่พระองค์ทรงเป็นพระราชสวามีที่ปฏิบัติต่อพระมเหสีและพระโอรสพระธิดา เป็นเจ้าชีวิตของอาณาประชาราษฎร์ ด้วยตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์นั้นทรงพระเมตตากรุณาโปรดปรานไปยังพระมเหสี พระราชโอรสพระราชธิดา พระประยูรญาติวงศ์และขุนนาง ตลอดจนผู้ใกล้ชิดอย่างบริบูรณ์แล้ว พระองค์ยังได้สร้างความสนิทเสน่หาเผื่อแผ่พระมหากรุณาธิคุณนั้นไปยังไพร่ฟ้าประชาชนที่อยู่ห่างไกลจนทรงคบหากับ “เพื่อนต้น” ที่เป็นชาวบ้านธรรมดา ซึ่งเป็นเหตุหนึ่งได้ทำให้มีการเรียบเรียงเรื่องความรักของพระองค์บ้าง พระราชปฏิพัทธ์ของสมเด็จพระพุทธจ้าหลวงแล้ว ได้พบว่าพระองค์ทรงเป็นพระราชาธิบดี ที่มีพระทัยรักใคร่ห่วงใยอาทรในทุกเรื่อง ดังได้พบเห็นจากพระราชหัตถเลขาที่พระองค์ทรงมีไปถึงพระมเหสี พระราชโอรสพระราชธิดา พระบรมวงศานุวงศ์และเจ้านายผู้ใกล้ชิด อย่างสม่ำเสมอ จนยากที่จะรวบรวมไว้ได้ครบถ้วน ดังนั้น พระราชปฏิพัทธ์ในสมเด็จพระพุทธจ้าหลวงจึงเป็นพระจริยวัตรของพระเจ้ากรุงสยาม ผู้เป็นพระราชสวามี ที่ทรงมีพระเมตตาโปรดปรานต่อนางผู้เป็นที่รักของพระองค์ เป็นสมเด็จพระบรมชนกที่ทรงรักและห่วงใยพระราชโอรสพระราชธิดา รวมไปถึงพระประยูรญาติวงศ์ที่ทรงให้ความรักดูแลย่างเสมอหน้าและทรงเรียกใช้สนองงานอยู่เสมอ แม้จะพบกับความทุกข์เทวษในการสูญเสียพระขวัญแก้วขวัญพระทัยสักกี่ครั้งก็ตาม พระองค์ยังระลึกถึงพระทัยแห่งความรักนั้นอย่างไม่เสื่อมคลาย ความรักจากพระราชหฤทัยของพระองค์นั้น เป็นความรักที่สร้างความเป็นเอกราชให้อาณาจักรสยามแห่งนี้สมารถดำรงประเทศได้ เป็นความรักที่สร้างความสุขสำราญที่ร่มเย็นอย่างถ้วนหน้า ทั้งในราชสำนักและพระราชอาณาจักร จนยากที่จะหาความรักของพระมหากษัตริย์ชาติใดเสมอหมือน พระเกียรติยศพระเจ้ากรุงสยามพระองค์นี้ได้แผ่พระราชสัมพันธไมตรีไปยังนานาประเทศ จนเป็นที่ยอมรับในพระบุญญาธิการและพระราชอำนาจแห่งราชสำนักสยามอย่างแพร่หลาย ด้วยความรักความห่วงใยของสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงพระองค์นี้ พระองค์จึงทรงเป็น “สมเด็จพระปิยมหารช” ตลอดกาลของไพร่ฟ้าประชาชนชาวสยาม ด้วยพระมหากรุณาธิคุณนานาประการแห่งความรักของพระองค์นั้น ได้ส่งเสริมให้อาณาประชาราษฎร์ชาวสยามยังคงดำรงความเป็นชาติเอกราชและสร้างความเป็นไท ที่ชาวไทยทั้งชาตินี้และชาติหน้าสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันอเนกอนันต์แล้วยังไม่สามารถทดแทนความรักของพระองค์ได้ ด้วยพระมหากรุณาธิคุณแห่งสมเด็จพระกษัตริยาธิราช ผู้เป็นมหาราชแห่งสยามประเทศและพระเกียรติคุณแห่งพระมหากษัตริย์ดีเด่นของโลก ทำให้มีการน้อมนำพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่มาเรียบเรียงถึงพระมหากรุณาธิคุณต่อแผ่นดิน เพื่อประกาศถึงการพัฒนาบ้านเมืองให้เท่าเทียมอารยประเทศ โดยทรงริเริ่มให้อาณาจักรสยาม ได้พัฒนาด้านการศึกษา วัฒนธรรม สังคมศาสตร์ มานุษยวิทยา การพัฒนาสังคมและการสื่อสาร จนอาณาจักรแห่งนี้จริญรุ่งเรืองมาจนทุกวันนี้ ซึ่งมีหนังสือที่เกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เผยแพร่อยู่หลายวาระ การเรียบเรียงครั้งนี้ เป็นอีกวาระหนึ่ง ที่ได้ระลึกถึงพระราชปฏิพัทธ์ในพระองค์ที่หลายคนใคร่รู้และเรื่องราวของพระมเหสี พระสนม ที่ยังต้องสืบค้นต่อไปให้ครบถ้วน พร้อมกันนี้ขอขอบพระคุณแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่มี ทั้งจดหมายเหตุและภาพเก่า ซึ่งนำมาประกอบในหนังสือนี้ จนทำให้มีคุณค่าและเป็นจดหมายเหตุที่มีประโยชน์ต่อการศึกษาต่อไป
เรียบเรียงโดย พลาดิศัย สิทธิรัญกิจ ศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์และภูมิปัญญาไทย