ประวัติของแผ่นดินไทย
หนังสือประวัติของแผ่นดินไทยนี้ จัดทำขึ้นเพื่อสนองพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมรชินีนาถ ที่ทรงต้องการให้คนไทยรู้ว่าตนเป็นใคร มาจากไหน มีบรรพบุรุษที่ใช้เลือดหาแผ่นดิน สร้างชาติรักษาแผ่นดินให้คนไทยอยู่กัน กว่าจะรอดมาถึงบัดนี้ได้อย่างไร โดยแก้ไขเพิ่มเติมจากฉบับที่พิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๖ แต่เดิมนั้น เราศึกษาเรื่องราวในอดีตจากคำบอกเล่า โบราณวัตถุ โบราณสถาน ศิลาจารึกและพศาวดาร แต่ในปัจจุบัน มีการค้นพบข้อมูลเพิ่มเติมจำนวนมาก จากหลักฐานทางโบราณคดี ข้อมูลทางธรณีวิทยา ฟอสชิลสัตว์และพืชในหิน กระดูกไดโนเสาร์ เอกสารโบราณซึ่งเพิ่งคันพบข้อมูลจากหอจดหมายเหตุหรือจากพิพิธภัณฑ์ รวมทั้งบันทึกรายงานรูปเขียน รูปถ่าย ของบุคคลที่เคยเข้ามาเมืองไทยในอดีต ซึ่งบางชิ้นเก็บอยู่ในต่างประเทศหรือเป็นภาษาต่างประเทศ หนังสือนี้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนแผ่นดินไทย ตั้งแต่ก่อนก่อตั้งชาติไทย ย้อนไปถึงยุคเริ่มต้นโลก ๔,๖๐๐ ล้านปี สัตว์ไทรโลไบท์ ๕๐๐ ล้านปีที่เกาะตะรุเตา ไดโนเสาร์ ๑๓๐ ล้านปี ที่กาฬ์สินธุ์ มนุษย์ลำปาง ๕๐๐,๐๐๐ ปี มนุษย์กระบี่ ๔๐,๐๐๐ ปี คนบ้านเชียง ๖,๐๐๐ ปี ต่อเนื่องสมัยสุโขทัย ๗๘๖ ปี อยุธยา ๖๖๗ ปี รัตนโกสินทร์ ๒๓๕ ปี จนถึง พศ. ๒๕๖๐ โดยค้นหาเรื่องทั้งที่มีและนอกเหนือจากในพงศวดาร เช่นเรื่องของปืนใหญ่ที่พม่ายืดไปจากอยุธยาเมื่อคราวเสียกรุงครั้งที่ ๒ ซึ่งพบที่อังกฤษ เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕ เหตุการณ์ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๖ ความไม่สงบทางชายแดนใต้ ตั้งแต่ พศ. ๒๕๔๗ รวมทั้งการขัดแย้ง \ระหว่างกลุ่มเสื้อเหลืองกับเสื้อแดงช่วง พ.ศ. ๒๕๕๑-๒๕๕๕ สิ่งสำคัญที่ผู้ศึกษาประวัติศาสตร์ต้องตระหนักก็คือ เรื่องราวในอดีตนั้น บางครั้งอาจคลาดเคลื่อน หรือไม่มีใครรู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร เพราะอาจบันทึกเข้าข้างพวกเดียวกับผู้จดบันทึก อาจมีการทำลายหลักฐาน ทั้งผู้จัดผู้เรียบเรียงเองก็อาจเข้าใจบางอย่างผิดพลาดได้ พระพุทธเจ้า ทรงสอนไว้ใน “กาลามสูตร” ว่า “จงอย่าเชื่อสิ่งใด เพียงเพราะบอกเล่าต่อกันมา อย่าเชื่อสิ่งใด เพียงเพราะมีเขียนจดบันทึกไว้ อย่าเชื่อสิ่งใด เพียงเพราะเป็นสิ่งที่ครูสอน ” ฯลฯ แต่จงใช้สติปัญญาของตนพิจารณาวส่างใดเป็นสิ่งไม่ดีไม่เป็นประโยชน์ ทำให้เกิดความทุกข์ ก็จงอย่าทำสิ่งนั้นแต่ถ้าพิจารณาว่าสิ่งใดเป็นสิ่งดี มีประโยชน์ ไม่มีโทษ ทำให้เกิดความสุข ก็ควรกระทำสิ่งนั้น”