คิดแบบมาร์ค ทำแบบเฟซบุ๊ก

คิดแบบมาร์ค ทำแบบเฟซบุ๊ก
ก่อนเข้าเรื่องในปี 2009 มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก กลายเป็นที่จดจำของคนทั่วโลกจากหนังสือ Accidental Billionaires ของเบน เมซริช และภาพยนตร์ The Social Network ของผู้กำกับแอรอน ซอร์กิ้น ในเรื่องราวเหล่านี้ มาร์ค ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นนักเขียนโปรแกรมนิสัยเสียที่เข้าสังคมไม่เก่งและจ้องแต่จะหลีสาวท่าเดียว ตรงตามประโยคแรกของหนังสือที่ว่า “น่าจะเป็นเหล้าแก้วที่สามนั่นแหละถึงจะได้การ” ในปี 2000 ที่หนังสือวางแผงและภาพยนตร์ดังกล่าวออกฉาย เฟซบุ๊กมีผู้ใช้เพียง 150 ล้านคน รายได้เพียง 270 ล้านดอลลาร์ และถูกมองว่าเป็นธุรกิจที่ไม่มั่นคงเหมือนกับโซเชียลเน็ตเวิร์กอื่นๆ ในยุคนั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อมาถึงปี 2015 มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก กลับได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในซีอีโอที่เยี่ยมยอดที่สุดในโลก ในขณะที่เฟซบุ๊กก็ได้กลายเป็นบริษัทที่ได้รับการยอมรับนับถือและได้ชื่อว่าเป็นผู้เปลี่ยนโลกในระดับเดียวกับกูเกิลและแอปเปิล จำนวนผู้ใช้เฟซบุ๊กสูงขึ้น 15 เท่า มูลค่าตลาดสูงขึ้น 30 เท่าไปเป็นกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ และมีรายได้เพิ่มขึ้น 60 เท่าไปเป็น 18,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี ก่อนเข้าเรื่องหนังสือเล่มนี้จะเล่าถึงความลับของการเติบโตอย่างก้าวกระโดดช่วง 7 ปีดังกล่าว รวมถึงอนาคตข้างหน้าในอีก 10 ปี มันคือเรื่องราวการเติบโตของเฟซบุ๊กที่กลายมาเป็นหนึ่งในสุดยอดบริษัทของโลก จากปากของคนวงในโดยตรงผมทำงานที่บริษัทอินเทลมาตั้งแต่ต้นปี 1990 ภายใต้แอนดี้ โกรฟ ตั้งแต่ อินเทอร์เน็ตเพิ่งตั้งไข่ เราได้ไปหาแลร์รี เพจ และเซอร์เกย์ บริน สองผู้ ก่อตั้งแห่งกูเกิล พร้อมกับเยี่ยมชมห้องประชุมที่มีโต๊ะปิงปองในเมืองพาโลอัลโตของพวกเขา ได้ไปหาเจฟฟ์ เบซอส แห่งอะเมซอนในออฟฟิศที่เมืองซีแอทเทิล และไปหามาร์ค แอนดรีสเซน กับเบน โฮโรวิตซ์ ตั้งแต่ก่อนที่พวกเขาจะกลายเป็นนักลงทุนชื่อดังเสียอีก ผมยังได้ช่วยมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก สร้างบริการต่างๆ ที่ปฏิวัติวงการโทรศัพท์มือถืออีกด้วย ผมนัดเจอกับเซอริล แซนด์เบิร์ก ประธานฝ่ายปฏิบัติการของเฟซบุ๊ก ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในเมืองพาโลอัลโตตอนฤดูใบไม้ร่วงในปี 2008 เพื่อคุยกันเรื่องที่ผมจะย้ายไปร่วมทีมกับเธอในการปลุกปั้นธุรกิจโฆษณาของเฟซบุ๊กที่กำลังเติบโตพรวดพราด พอผมได้ฟังวิสัยทัศน์ของเธอ ผมก็ เคลิ้มและตกลงร่วมทีมทันที ในเวลาเพียง 7 ปี พวกเราได้ทำให้ธุรกิจโฆษณาของเฟซบุ๊กโตขึ้นกว่า 60 เท่า คิดเป็นมูลค่า 18,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี ผมได้สร้างทีมระดับโลกที่ขยายธุรกิจเฟซบุ๊ก วางกลยุทธ์การตลาด ให้คำปรึกษาและทำความ คิดแบบมาร์ค ทำแบบเฟซบุ๊ก เข้าใจลูกค้า ทีมของผมได้รวมคนเก่งๆ จากทั่วโลกหลายร้อยคนที่มุ่งมั่น อยากทำให้โลกนี้เปิดกว้างและเชื่อมโยงถึงกัน มันเป็นงานที่มีแรงกดดันอยู่ตลอดและไม่เคยง่าย แต่เรื่องราวที่ มาร์ค เซอริล และทีมงานของเฟซบุ๊กได้สร้างหนึ่งในธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน ได้กลายเป็นตำนานของซิลิคอนวัลเลย์ ทำให้ผมภูมิใจที่ได้เป็น ส่วนหนึ่งของมัน และตื่นเต้นที่จะได้เขียนถึงและเล่าเรื่องนี้ให้คุณฟัง ผมได้ร่วมสร้างเฟซบุ๊กร่วมกับมาร์ค เชอริล และเพื่อนสนิทอีก 10,000 คน และนี่คือสิ่งที่ผมได้เห็น
ก่อนเข้าเรื่อง
ไมค์ ฮอฟฟลิงเกอร์
เมืองลอสอัลตอส, รัฐแคลิฟอร์เนีย

ห้องสมุดและพิพิธภัณฑ์